แนวข้อสอบ วิทยากรปฏิบัติการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ฟรี

ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 78 ข้าราชการต้องรักษาความลับของทางราชการ แต่เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต ข้าราชการควรแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ร้องเรียน เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งหรือแก้แค้น

ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 การจัดซื้อจัดจ้างต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เปิดเผย และเป็นธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงาน การดำเนินการที่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะถือว่าไม่ถูกต้อง

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 81 เมื่อรัฐสภามีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแล้ว จะต้องส่งร่างดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 มาตรา 22 กำหนดให้ข้าราชการต้องแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย และเหมาะสมกับสถานที่และโอกาส เพื่อรักษาภาพลักษณ์และเกียรติของตำแหน่งหน้าที่ การแต่งกายที่เป็นทางการจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาจากประชาชน

ตามมาตรฐานทางจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2556 ข้อ 6 กำหนดให้ข้าราชการมีหน้าที่เสนอแนะ ให้ข้อคิดเห็น และวิเคราะห์ถึงประโยชน์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การกำหนดนโยบายและการตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ

ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 78 ห้ามมิให้ข้าราชการแสวงหาประโยชน์อื่นใดจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งรวมถึงการรับงานนอกเหนือหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม พนักงานจึงควรปฏิเสธการเสนองานดังกล่าว และแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ

ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 9 กำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของรัฐได้ อย่างไรก็ตาม มาตรา 15 ยังอนุญาตให้หน่วยงานปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ ดังนั้น หน่วยงานจึงควรพิจารณาเปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย

ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ข้อ 6 กำหนดให้ข้าราชการมีหน้าที่เสริมสร้างและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เมื่อพบเห็นการทุจริตหรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ข้าราชการจึงควรแจ้งผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 มาตรา 8 กำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์ และเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์จึงต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ และมุ่งตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ส่วนการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

ตาม มาตรฐานทางจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2556 ข้อ 4 กำหนดให้ข้าราชการมีหน้าที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว การปฏิบัติตามคำสั่งที่ขัดกฎหมายจะถือเป็นการกระทำผิดวินัย ดังนั้น พนักงานควรแจ้งผู้บังคับบัญชาถึงข้อกังวลและปฏิเสธการปฏิบัติงานดังกล่าว

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 มาตรา 31 กำหนดให้ข้าราชการต้องรักษาความลับของทางราชการ และไม่เปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความดูแล การเปิดเผยอาจทำให้ทางราชการเสียหายได้ ดังนั้น พนักงานจึงควรปฏิเสธการเข้าพบ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 วิทยากรปฏิบัติการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่แสดงความเห็นส่วนตัวที่อาจมีอิทธิพลต่อการดำเนินกิจกรรม รวมทั้งต้องดำเนินการฝึกอบรมหรือสัมมนาให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การฝึกอบรมหรือสัมมนามีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม

ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 106 วิทยากรปฏิบัติการมีหน้าที่ต้องรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการสืบสวนและดำเนินการทางวินัยต่อไป เนื่องจากการเพิกเฉยหรือปกปิดจะถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่

ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 วิทยากรปฏิบัติการควรแสดงความเป็นกลาง ไม่เข้าไปฝักใฝ่ฝ่ายใด และพยายามเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้ง โดยใช้เหตุผลและข้อเท็จจริงมาชี้แจงเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน และยุติข้อขัดแย้งอย่างสันติ

ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 วิทยากรปฏิบัติการในฐานะผู้ดำเนินการประชุมต้องรักษาความเป็นกลาง ไม่แสดงความคิดเห็นหรือทัศนคติที่อาจมีอิทธิพลต่อการดำเนินการประชุม รวมทั้งต้องดำเนินการประชุมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 วิทยากรปฏิบัติการมีหน้าที่หลักในการดำเนินการฝึกอบรม สัมมนา บรรยาย หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรของรัฐสภา เพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และสมรรถนะให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐสภา

ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 106 วิทยากรปฏิบัติการมีหน้าที่ต้องรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยของข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการสืบสวนและดำเนินการทางวินัยต่อไป ไม่ควรเพิกเฉยหรือปกปิดความผิด เพราะจะถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่

วิทยากรปฏิบัติการต้องรักษาความเป็นกลางและไม่แสดงความเห็นหรือทัศนคติส่วนตัวที่อาจมีผลต่อการดำเนินการฝึกอบรม ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ที่ระบุให้ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหรือชี้นำอาจทำให้การฝึกอบรมขาดความเป็นธรรม

ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 หมวด 2 การประชุม ข้อ 27 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถแสดงความเห็นระหว่างการประชุมได้โดยการปรึกษาหารือ อภิปราย หรือตั้งประเด็นซักถามต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้การดำเนินการประชุมเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส และมีการถ่วงดุล

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 120 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาที่กระทำการขัดต่อจริยธรรมอาจถูกถอดถอนจากตำแหน่งได้ โดยต้องได้รับมติเสียงไม่น้อยกว่าสามในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ซึ่งเป็นบทลงโทษสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิกวุฒิสภาที่ประพฤติผิดจริยธรรม

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 120 กำหนดให้เมื่อสมาชิกวุฒิสภาพ้นจากตำแหน่ง ให้ถือว่าตำแหน่งนั้นว่างลง และให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภาใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 90 วัน เพื่อให้วุฒิสภามีสมาชิกครบตามจำนวน

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 120 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 1 วาระ และอาจถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ซึ่งจะต้องได้รับมติเสียงไม่น้อยกว่าสามในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 109 กำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาต้องมีคุณสมบัติ เช่น เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เป็นที่ประจักษ์ มีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 114 ไม่ได้กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจในการควบคุมการปฏิบัติงานของรัฐบาล แต่ให้มีบทบาทในการตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารผ่านการให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งสำคัญ

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 หมวด 9 การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ กำหนดให้การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงจะมีผลใช้บังคับได้

ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 103 ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความเป็นกลางและป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์ ดังนั้น ข้าราชการควรปฏิเสธการรับของขวัญทันที เพื่อไม่ให้เกิดการรับสินบนหรือผลประโยชน์ตอบแทน

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 113 กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ซึ่งเป็นการตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 หมวด 2 การประชุม กำหนดให้การประชุมวุฒิสภาต้องเป็นการประชุมเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับฟังการประชุมได้ การประชุมลับจึงไม่ถูกต้อง เนื่องจากขัดต่อหลักการเปิดเผยและความโปร่งใสในการดำเนินงานของรัฐ

ตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องให้บริการแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม รวดเร็ว และเป็นธรรม การตอบรับเรื่องร้องเรียนเพื่อดำเนินการตรวจสอบและชี้แจงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกต้อง ส่วนการมอบหมายให้ผู้อื่นรับผิดชอบหรือเพิกเฉยจะเป็นการละเลยหน้าที่

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ข้าราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และมาตรฐานที่กำหนด การเพิกเฉยหรือไม่ดำเนินการจะทำให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน การรายงานผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องป้องกันและปราบปรามการทุจริต การเพิกเฉยหรือปกปิดเหตุการณ์จะทำให้เป็นผู้ร่วมรับผิดชอบ การแจ้งผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ต้องรักษาวินัยและดำเนินการทางวินัยกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำผิด การปกปิดหรือละเลยจะทำให้ผู้บังคับบัญชามีส่วนรับผิดชอบด้วย ส่วนการแจ้งผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

ตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชุมราชการ พ.ศ.2557 ผู้เข้าร่วมประชุมต้องรักษาความเป็นธรรม ไม่กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน การเสนอให้ยุติประชุมจะทำให้ประชุมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ส่วนการปล่อยให้มีการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานจะทำให้เกิดความเสียหาย

ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้าราชการมีหน้าที่ต้องป้องกันและยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ การเพิกเฉยหรือปกปิดจะทำให้เป็นผู้ร่วมรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนการรายงานผู้บังคับบัญชาเป็นวิธีการที่ถูกต้องตามระเบียบ

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ข้าราชการมีหน้าที่ต้องพัฒนาความรู้ความสามารถอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ขณะที่การปฏิเสธงานหรือไม่พยายามเรียนรู้จะเป็นการละเลยหน้าที่

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ส่วนตัวเลือกอื่นอาจทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ข้าราชการมีหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนที่ร้องขอ เว้นแต่ข้อมูลนั้นเป็นความลับทางราชการ การปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลจะเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน ส่วนการรับเรื่องไว้พิจารณาและสรุปภายหลัง เป็นการเลี่ยงไม่ให้ข้อมูล

ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ข้าราชการต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ การร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้เงินต้องได้รับการตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนตัวเลือกอื่นจะเป็นการละเลยหน้าที่หรือปิดบังข้อเท็จจริง

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 กำหนดให้ข้าราชการต้องรับฟังและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องเรียน การดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนอย่างเป็นระบบ เพื่อหาสาเหตุและข้อเท็จจริง ก่อนพิจารณาแนวทางแก้ไขและป้องกันมิให้เกิดซ้ำ จะทำให้การให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ซึ่งแตกต่างจากการเพิกเฉยหรือตอบปฏิเสธไม่รับฟังเหตุผล

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 78 ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ การที่ข้าราชการไม่สามารถปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด จึงควรมีการหาสาเหตุ วิเคราะห์ปัญหา และปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น ทั้งนี้ หากเป็นการงานที่ผิดพลาด ข้าราชการควรเปิดเผยเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ปกปิดหรือแก้ไขเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

การจัดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพข้าราชการ ควรคำนึงถึงการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการฝึกอบรมที่แท้จริง การกำหนดวัตถุประสงค์และเนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการ การเลือกวิธีการฝึกอบรมที่เหมาะสม ตลอดจนการประเมินผลเพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงการฝึกอบรมในอนาคต ตามหลักการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้การฝึกอบรมบรรลุเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุด

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 78 ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การเปิดเผยข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขปัญหาจึงเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง ซึ่งแตกต่างจากการปกปิดข้อบกพร่องหรือการแก้ไขเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ซึ่งจะเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมและอาจมีความผิดทางวินัย

ตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 มาตรา 7 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องให้บริการประชาชนด้วยความสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ การให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยความเต็มใจ เอาใจใส่และเท่าเทียมกัน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการเพิกเฉยหรือปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจะเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน

ตามหลักจริยธรรมและวินัยข้าราชการ ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม และปราศจากอคติ (พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 78) การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ข้าราชการจึงต้องแสดงความเป็นกลาง รับฟังความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ส่วนการแสดงความคิดเห็นที่ลำเอียงหรือการเข้าร่วมประชุมแต่ไม่มีส่วนร่วมจะเป็นการกระทำที่ผิด

รายงานการประชุมคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องมีสาระสำคัญที่ผู้พิจารณาจะใช้ประกอบการตัดสินใจ เช่น ความเป็นมา ประเด็นสำคัญที่มีการอภิปราย ข้อสรุปและมติของที่ประชุม ตามระเบียบว่าด้วยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 และระเบียบว่าด้วยการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2551 ซึ่งจะช่วยให้ผู้พิจารณามีข้อมูลสำคัญครบถ้วน ส่วนการระบุชื่อ-นามสกุลผู้เข้าร่วมประชุมเป็นเพียงข้อมูลเสริม

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 59 กำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และมาตรา 78 กำหนดให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อให้งานสำเร็จ การทำงานล่วงเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนจึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนตัวเลือกอื่นอาจทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าหรือไม่ครบถ้วน

ตามระเบียบสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าด้วยการปฏิบัติงานและการให้บริการทางวิชาการ พ.ศ. 2562 ข้าราชการมีหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ดังนั้น ข้าราชการควรศึกษากฎหมาย ระเบียบ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตาม พ.ร.บ.วินัยข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการใดที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวและประโยชน์ส่วนรวม การช่วยเหลือผู้รับบริการในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายถือเป็นการร่วมกระทำผิด ดังนั้น ข้าราชการต้องปฏิเสธและอธิบายเหตุผล

ตามระเบียบว่าด้วยข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้าราชการมีหน้าที่ให้คำแนะนำแก่สมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการจัดทำญัตติหรือกระทู้ถาม เพื่อให้การดำเนินการมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นไปตามระเบียบ ดังนั้น ข้าราชการควรศึกษารายละเอียดของระเบียบที่เกี่ยวข้อง และให้คำแนะนำอย่างชัดเจนและครบถ้วน

ตามระเบียบวุฒิสภาว่าด้วยการปฏิบัติงานและการให้บริการทางวิชาการ พ.ศ. 2562 ข้าราชการจะต้องจัดทำข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน เพื่อให้การปฏิบัติงานของวุฒิสภามีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงควรศึกษากฎหมาย ระเบียบ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนจัดทำรายงาน

ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ข้าราชการต้องให้บริการประชาชนด้วยความสุภาพ เต็มใจ และเป็นธรรม การรับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนจากผู้รับบริการเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ข้าราชการควรรับฟังอย่างตั้งใจ บันทึกข้อมูล และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการต่อไป

ตามระเบียบว่าด้วยข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้าราชการจะต้องเตรียมข้อมูลและจัดทำความเห็นที่เกี่ยวข้องกับกระทู้ถามอย่างรอบคอบ เพื่อให้คำตอบมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของวุฒิสภา ดังนั้น ข้าราชการจึงควรศึกษากฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหารือกับผู้บังคับบัญชาเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจน

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความเป็นกลางและป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์ การรับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกจะถือเป็นการรับสินบน ดังนั้นจึงควรปฏิเสธการรับความช่วยเหลือนั้น

ตามหลักจริยธรรมข้าราชการ ข้าราชการต้องใช้ทรัพย์สินของราชการอย่างประหยัด คุ้มค่า เพื่อประโยชน์ของทางราชการเท่านั้น การนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวถือเป็นการกระทำผิด จึงควรรายงานให้หัวหน้าทราบ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาต่อไป

ในกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมาย ข้าราชการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และเป็นกลาง ไม่มีอคติหรือการแทรกแซงจากผลประโยชน์ส่วนตน ตามหลักจริยธรรมข้าราชการ โดยต้องให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เพื่อให้ได้กฎหมายที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของสังคม

การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการร่างและปรับปรุงกฎหมายมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้กฎหมายมีความสอดคล้องกับความต้องการและบริบทของสังคม ทำให้กฎหมายสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง และได้รับการยอมรับจากประชาชน นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมในกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ข้าราชการควรรายงานและเสนอแนะให้มีการทบทวนกฎหมายที่มีปัญหาหรือล้าสมัย เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยต้องชี้แจงเหตุผลและข้อมูลประกอบอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ข้าราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน จนกว่าจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง

ข้าราชการควรมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมาย โดยการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เพื่อให้ได้กฎหมายที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง นอกจากนี้ ข้าราชการต้องใช้ดุลพินิจอย่างเป็นกลาง ไม่มีอคติ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ข้าราชการควรมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยการเสนอความคิดเห็น ข้อมูล และประเด็นปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้จริง เพื่อให้กฎหมายมีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ข้าราชการต้องศึกษาและทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานของตน เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

การปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายควรมีความต่อเนื่อง เพื่อให้กฎหมายทันสมัยและสอดคล้องกับบริบททางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรปล่อยให้ล้าสมัยจนเกิดปัญหาในการบังคับใช้ แต่ต้องคำนึงถึงความจำเป็นจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่บ่อยเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ การปรับปรุงควรมีเป้าหมายเพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม

ข้าราชการต้องใช้ดุลพินิจอย่างเป็นกลาง ไม่มีอคติ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้เหตุผลชัดเจน เพื่อให้ร่างกฎหมายมีคุณภาพและเกิดความเป็นธรรม ส่วนการใช้ดุลพินิจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนจะเป็นการขัดต่อจริยธรรมข้าราชการ

การจัดทำร่างกฎหมายต้องคำนึงถึงหลักการตรากฎหมายที่ดี เช่น ความจำเป็น ความสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน ความครอบคลุมประเด็นปัญหา และผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งจะช่วยให้กฎหมายบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ร่างกฎหมายมีความเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ

การปรับปรุงกฎหมายต้องคำนึงถึงความจำเป็น ความสอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีปัจจุบัน ตามหลักการตรากฎหมายที่ดี ซึ่งจะช่วยให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนการทบทวนเพื่อยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัยหรือไม่จำเป็นอีกต่อไป จะช่วยลดภาระของประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ

การติดตามและประเมินผลการนำความรู้จากการอบรมไปใช้ปฏิบัติงานควรดำเนินการโดยการสัมภาษณ์หรือสอบถามผู้เข้ารับการอบรมในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค และแนวทางการนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานจริง รวมทั้งการสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของผู้เข้ารับการอบรม

ก่อนเป็นวิทยากรอบรม ควรเตรียมความพร้อมโดยการศึกษาเนื้อหาและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ทบทวนกระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่เหมาะสม และตรวจสอบความพร้อมของสื่อ/อุปกรณ์การอบรม เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาหลักสูตรการอบรมที่เหมาะสมควรเริ่มจากการสำรวจความต้องการจำเป็นในการพัฒนาบุคลากร จากนั้นจึงกำหนดวัตถุประสงค์และเนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการ และออกแบบกิจกรรมการอบรมที่เน้นการปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง

การประเมินผลการอบรมที่เหมาะสมควรประกอบด้วยการประเมินปฏิกิริยา การประเมินการเรียนรู้ และการประเมินพฤติกรรมการนำความรู้ไปใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งความพึงพอใจและประโยชน์ที่ผู้เข้ารับการอบรมได้รับ

วิทยากรควรรับฟังข้อซักถามของผู้เข้ารับการอบรมด้วยความเต็มใจ และตอบข้อซักถามด้วยความรอบคอบ ชัดเจน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจประเด็นได้อย่างถูกต้อง หากไม่แน่ใจในคำตอบ ควรแจ้งว่าจะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและแจ้งกลับในภายหลัง

การนำเสนอเนื้อหาที่มีความยาวมากควรแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถติดตามและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างการอบรม

การจัดอบรมของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานให้แก่บุคลากร เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิทยากรต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของผู้เข้ารับการอบรม เพื่อปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสม สอดคล้องกับระดับความรู้ของผู้เข้ารับการอบรม

ในช่วงสมัยประชุมสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการประชุมสภาให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการจัดเตรียมเอกสารและอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกวุฒิสภา

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ตาม พ.ร.บ.ฯ มาตรา 78 ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ และมีความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตอบสนองความต้องการของประชาชน

การให้บริการทางการศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของวิทยากรปฏิบัติการ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรเป็นสำคัญ

ตาม พ.ร.บ.ฯ หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการบริหารราชการ ยกเว้นข้อมูลที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ

ตาม พ.ร.บ.ฯ มาตรา 123 การกระทำอันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ถือเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เนื่องจากขัดต่อหลักความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่

ตามระเบียบฯ ข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการจะต้องไม่เปิดเผยเป็นการทั่วไป เว้นแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา การเปิดเผยนอกเหนือจากนี้จะถือเป็นการกระทำผิด

การใช้อำนาจหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวขัดต่อหลักการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบ ข้าราชการพึงใช้อำนาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว

ตามพระราชกฤษฎีกาฯ มาตรา 6 กำหนดให้การบริหารราชการต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งการให้ความสำคัญกับประชาชนและการให้บริการที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

ตามระเบียบฯ ข้าราชการห้ามรับของขวัญจากผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์ การรับของขวัญจะทำให้เกิดความไม่เป็นกลาง และอาจถูกกล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว

วิทยากรปฏิบัติการมีหน้าที่หลักในการให้ความรู้ ฝึกอบรม และพัฒนาบุคลากรของสำนักงานฯ ไม่ใช่การจัดการศึกษาภาพรวมของประเทศ

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 48 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาได้รับเบี้ยประชุมในอัตรา 3,500 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าข้าราชการประเภทอื่น เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภามีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบสูงในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 31 กำหนดให้ข้าราชการต้องรักษาความลับทางราชการ ดังนั้นข้าราชการจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับเกี่ยวกับสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจหน้าที่

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 6 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในรัฐสภาสามารถรับเงินเดือน ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่กฎหมายกำหนด แต่ห้ามรับสิ่งอื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 29 กำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและยุติธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นจึงต้องให้ความช่วยเหลือแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 31 กำหนดให้ข้าราชการต้องรักษาความลับทางราชการ ดังนั้นการลงนามรับรองเอกสารทางราชการต้องกระทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับที่ไม่ควรเปิดเผย

ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 103 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการขัดกันของผลประโยชน์ ดังนั้นข้าราชการต้องปฏิเสธการรับทันที

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 29 กำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง และยึดมั่นในประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอกต้องกระทำด้วยความโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 33 กำหนดให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามีหน้าที่และความรับผิดชอบในการให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่วุฒิสภาในการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 7 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในรัฐสภาต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 41 กำหนดให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทของรัฐสภาต้องกระทำโดยที่ประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อให้การตัดสินใจมีความเป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 138 วุฒิสภามีอิสระในการบริหารงบประมาณของตนเอง โดยจะต้องมีการควบคุมและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎหมาย

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 วุฒิสภามีบทบาทในการควบคุมและตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ไม่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 171

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 การเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาจะต้องกระทำในการประชุมสมัยแรกของการประชุมวุฒิสภาแต่ละสมัยประชุม ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นวาระการทำงานของสมาชิกวุฒิสภาใหม่

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 135 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามีสิทธิเข้าถึงข้อมูลหรือเอกสารใดๆ จากหน่วยงานของรัฐ เพื่อประกอบการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 133 กำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติจะต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อนเสนอพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย โดยวุฒิสภาจะต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 60 วัน

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาที่มีความสำคัญหรือมีผลกระทบในวงกว้างต้องมีลักษณะเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว และต้องมีผู้เสนอจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 วุฒิสมาชิกมีหน้าที่ในการควบคุมและตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งรวมถึงการติดตาม เร่งรัด และตรวจสอบการปฏิบัติงานของคณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 132 กำหนดให้วุฒิสมาชิกมีเอกสิทธิ์และความคุ้มกันในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่อาจถูกจับกุม คุมขัง หรือหาความผิดระหว่างการประชุมวุฒิสภา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากประธานวุฒิสภา