แนวข้อสอบ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ กรมการแพทย์

การให้บริการสาธารณสุขต้องยึดหลักความเสมอภาค เป็นธรรม และทั่วถึง ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ดังนั้น เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการที่ไม่เป็นธรรม นักวิชาการสาธารณสุขต้องรับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ส่วนการเพิกเฉยหรือตอบปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลอาจนำไปสู่ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 หน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหามลพิษ ดังนั้น เมื่อพบปัญหามลพิษในสถานพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุขจึงควรรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อหาแนวทางการจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ส่วนการปล่อยให้เป็นไปตามสภาพจะทำให้ปัญหาบานปลาย

ในการให้บริการ นักวิชาการสาธารณสุขต้องปฏิบัติตามหลักการบริการที่ดี คือ มีความสุภาพ อ่อนน้อม และมีความเป็นกลาง แม้ผู้ใช้บริการจะแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งควรปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อระงับหรือป้องกันการเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น ส่วนการรายงานหรือขอความช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชาเป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่อาจดำเนินการเพิ่มเติม

ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 หากพบเห็นการทุจริตในหน่วยงานจะต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย การปกปิดหรือละเลยต่อการกระทำผิดจะเป็นการสนับสนุนการทุจริต

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยเป็นข้อมูลที่มีความลับและต้องได้รับการคุ้มครอง นักวิชาการสาธารณสุขจึงต้องปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตัวเลือกอื่นจะเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือทันทีเมื่อได้รับแจ้ง โดยต้องรับแจ้งเหตุ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ถูกกระทำอย่างเหมาะสม ส่วนการเพิกเฉยหรือการปล่อยให้เป็นไปตามปกติจะเป็นการละเลยต่อหน้าที่

การให้บริการสาธารณสุขจะต้องยึดหลักความเสมอภาค เป็นธรรม และทั่วถึง ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 จึงควรปรับปรุงการให้บริการให้มีความสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการอย่างครบถ้วน ขณะที่ตัวเลือกอื่นเน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่การปรับปรุงอย่างยั่งยืน

ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองหรือกระทำการใดๆ ต่อยาและวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต การลักลอบนำสิ่งของออกจากสถานพยาบาลถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย จึงต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ.2552 ผู้บังคับบัญชาต้องรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงการบริการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ

ในการนิเทศงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ นักวิชาการสาธารณสุขควรเน้นการให้คำปรึกษา แนะนำ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายตามนโยบายและแผนงานที่กำหนด

ในการจัดทำแผนงานด้านสาธารณสุขระดับจังหวัด นักวิชาการสาธารณสุขควรคำนึงถึงหลักการมีส่วนร่วม การบูรณาการ และการมุ่งเน้นผลลัพธ์ เพื่อให้แผนงานสอดคล้องกับบริบทและความต้องการของพื้นที่ และสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการพัฒนาด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการประสานงานกับเครือข่ายสาธารณสุขระดับจังหวัด นักวิชาการสาธารณสุขควรให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการบูรณาการทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องป้องกันการเข้าถึงหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเมื่อพบการรั่วไหลควรรีบดำเนินการตรวจสอบสาเหตุ และแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ในการทำงานร่วมกับองค์กรชุมชน นักวิชาการสาธารณสุขควรยึดหลักการมีส่วนร่วม เคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความเป็นเจ้าของในการพัฒนางานสาธารณสุขอย่างยั่งยืน

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่สนับสนุน ประสาน และพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยการถ่ายทอดความรู้ วิชาการ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ตามแนวทางการดำเนินงานด้านสาธารณสุขมูลฐาน

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ.2552 เจ้าหน้าที่ต้องรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงการบริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่สนับสนุน ประสาน และพัฒนาศักยภาพชุมชนในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ตามหลักการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสาธารณสุข

การมอบหมายงานควรคำนึงถึงความรู้ความสามารถและความเหมาะสมของบุคลากร เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามหลักการบริหารงานบุคคลที่ดี

นักวิชาการสาธารณสุขควรส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการระบบสุขภาพของตนเอง ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 11 โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนแสดงความคิดเห็น เสนอปัญหา ร่วมวางแผน ตัดสินใจ และติดตามประเมินผล เพื่อให้เกิดความตระหนักและรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 5 กำหนดให้ประชาชนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องได้รับการบริการอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และทั่วถึง ไม่มีการแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติ รวมทั้งมีสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพอย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสม

พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ได้กำหนดกรอบและหลักการสำคัญในการจัดการระบบสุขภาพของประเทศ ครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ การจัดบริการสาธารณสุข การมีส่วนร่วมของประชาชน การคุ้มครองผู้บริโภค และการจัดทำระบบข้อมูลสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่นักวิชาการสาธารณสุขต้องศึกษาและยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 89 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่แจ้งเบาะแสการทุจริตต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย การเพิกเฉยหรือปกปิดจะถือเป็นการกระทำผิดวินัย ดังนั้น เมื่อพบเบาะแสการทุจริต ข้าราชการควรรายงานต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

การจัดทำแผนงานด้านสาธารณสุขระดับอำเภอ ต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 11 โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันวางแผน กำหนดแนวทาง และติดตามประเมินผล เพื่อให้แผนงานตรงกับความต้องการและบริบทของพื้นที่อย่างแท้จริง

ในการจัดบริการสุขภาพ นักวิชาการสาธารณสุขต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 11 โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทาง ติดตาม และประเมินผลการจัดบริการสุขภาพ เพื่อให้ตรงตามความต้องการของประชาชนและชุมชน ส่วนการตัดสินใจโดยฝ่ายเดียวจะทำให้ขาดความเหมาะสมและไม่ตรงกับปัญหาที่แท้จริง

การดำเนินงานคัดกรองสุขภาพต้องยึดหลักความเสมอภาค เข้าถึง และทั่วถึง ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 5 โดยเน้นการให้บริการแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ และขยายการเข้าถึงบริการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เพียงการเน้นการตรวจสุขภาพส่วนกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

การบริหารจัดการฐานข้อมูลสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีความถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 47 ที่กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐต้องมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และเข้าถึงได้สะดวก

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ประชาชนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมาตรฐาน นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุ และแก้ไขปัญหาเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ โดยต้องให้ความเป็นธรรมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย

ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว การใช้อำนาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมของข้าราชการ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ การให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียม และการรักษาความลับทางราชการเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องตามจริยธรรม

ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ข้าราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และละเว้นการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หากพบการปฏิบัติงานที่ขัดต่อจริยธรรม ข้าราชการควรรายงานหัวหน้าหน่วยงานเพื่อดำเนินการสอบสวนและลงโทษ ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของภาครัฐ

ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2552 นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการในกรมการแพทย์มีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษา แนะนำ และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน รวมถึงการวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 สถานพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ควรให้บริการด้วยความเสมอภาค เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและเป็นธรรม

ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ประชาชนมีสิทธิเลือกรับบริการสาธารณสุขจากสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตและถูกต้องตามกฎหมาย นักวิชาการสาธารณสุขควรแนะนำให้ประชาชนเลือกสถานพยาบาลที่มีบุคลากรและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานการให้บริการ และมีการอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2560 บุคลากรที่รับผิดชอบงานด้านเวชระเบียนต้องมีความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการเวชระเบียน เช่น การจัดเก็บ การรักษาความลับ และการให้บริการ นอกจากนี้ต้องมีความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตำแหน่ง

ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 103 ข้าราชการมีหน้าที่แจ้งการพบเห็นการทุจริตต่อหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อให้มีการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด การรักษาความเป็นกลางและแจ้งการทุจริตเป็นหน้าที่ของข้าราชการ ส่วนการเพิกเฉยหรือเข้าไปมีส่วนร่วมย่อมถือเป็นการกระทำผิด

นักวิชาการสาธารณสุขควรคำนึงถึงการให้บริการและการปฏิบัติงานที่ยึดประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวมเป็นหลัก ตามจริยธรรมข้าราชการพลเรือนที่กำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และไม่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวจากตำแหน่งหน้าที่ การคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานของนักวิชาการสาธารณสุข

หน้าที่ของนักวิชาการสาธารณสุขไม่รวมถึงการดูแลรักษาพยาบาลแก่ประชาชน เนื่องจากเป็นบทบาทหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ดังที่ระบุไว้ในประกาศ ก.พ. เรื่องมาตรฐานกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ที่ให้นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษา แนะนำ และเผยแพร่ความรู้ด้านสาธารณสุข แต่ไม่รวมถึงการรักษาพยาบาล

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน โรงเรียน เพื่อให้การดำเนินงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการปฏิบัติงานสาธารณสุขในชุมชน พ.ศ. 2560

หน้าที่หลักของนักวิชาการสาธารณสุขที่แตกต่างจากบุคลากรทางการแพทย์คือการให้ความรู้ คำแนะนำ และส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพแก่ประชาชน ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์มีหน้าที่หลักในการรักษาพยาบาล ตามประกาศ ก.พ. เรื่องมาตรฐานกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างของบทบาทหน้าที่ระหว่างทั้งสองกลุ่ม

นักวิชาการสาธารณสุขควรมีการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ชุมชน สื่อมวลชน เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงานด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของประชาชน ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการปฏิบัติงานสาธารณสุขในชุมชน พ.ศ. 2560

นักวิชาการสาธารณสุขควรมีบทบาทในการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพของประชาชน โดยการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ตลอดจนการควบคุมป้องกันโรคและภัยสุขภาพ ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของนักวิชาการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2552

นักวิชาการสาธารณสุขต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน ตามแนวคิดการกำหนดปัจจัยเงื่อนไขสุขภาพของ Dahlgren และ Whitehead ซึ่งกำหนดให้ปัจจัยดังกล่าวเป็นองค์ประกอบสำคัญของสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการที่ครอบคลุมทุกมิติ

นักวิชาการสาธารณสุขต้องมีความรู้ความสามารถด้านวิชาการ มีทักษะการสื่อสารที่ดี เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และเข้าถึงประชาชน ตามประกาศ ก.พ. เรื่องมาตรฐานกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ลักษณะงานปฏิบัติของตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข ด้านการให้คำปรึกษา แนะนำและเผยแพร่ความรู้ด้านสาธารณสุข

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ในการเผยแพร่ความรู้และข้อมูลด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2552

การประเมินผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อพัฒนาและยกระดับสมรรถนะของบุคลากร โดยนำผลการประเมินมาจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล สร้างแรงจูงใจ และพิจารณาความดีความชอบ ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานมีบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ของภาครัฐ

ข้อมูลที่สำคัญต่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโครงการสาธารณสุข ได้แก่ ข้อมูลด้านต้นทุน เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ และข้อมูลด้านผลลัพธ์ เช่น ผลทางสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับประโยชน์ ซึ่งจะนำมาวิเคราะห์ความคุ้มค่าของโครงการตามหลักการวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ ส่วนข้อมูลด้านกระบวนการและความพึงพอใจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประเมินผลโครงการ

การติดตามและประเมินผลโครงการสาธารณสุขควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การประเมินความต้องการ การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และการประเมินผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคและปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการติดตามและประเมินผลที่ดีตามกรอบ PDCA

การประเมินผลโครงการสาธารณสุขควรให้ความสำคัญกับการประเมินผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิผลและความคุ้มค่าของโครงการ ตามแนวทางการประเมินแบบ CIPP ของกรมอนามัย ซึ่งครอบคลุมทั้งปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต และผลลัพธ์ โดยที่การประเมินความพึงพอใจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประเมินผลลัพธ์เท่านั้น

ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้แก่ แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีการจูงใจของ Herzberg และแนวคิดการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา เป็นเพียงปัจจัยส่วนบุคคลที่อาจมีผลเสริมเท่านั้น

การประเมินผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การประเมินตามสมรรถนะ การประเมินตามผลสัมฤทธิ์ของงาน และการประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

การวิเคราะห์ความคุ้มค่าของโครงการสาธารณสุขควรพิจารณาจากปัจจัยด้านต้นทุน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ และปัจจัยด้านผลประโยชน์ ได้แก่ ผลลัพธ์ทางสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ประชาชนได้รับ ซึ่งเป็นไปตามหลักการวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้บริการของประชาชนในโครงการสาธารณสุข ได้แก่ ความสะดวกในการเข้าถึงบริการ ความเชื่อมั่นในคุณภาพบริการ และความพึงพอใจต่อบริการ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการเข้าถึงบริการสาธารณสุขตามแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ส่วนปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น เพศ อายุ เป็นเพียงปัจจัยส่วนบุคคลที่อาจมีผลเสริม

การประเมินผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ของงานที่สะท้อนการบรรลุเป้าหมายตามภารกิจของหน่วยงาน รวมทั้งสมรรถนะและพฤติกรรมการปฏิบัติงาน ซึ่งสอดคล้องกับระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546

การประเมินผลการดำเนินงานโครงการสาธารณสุขต้องใช้วิธีการที่ครอบคลุมทั้งปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลลัพธ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนความสำเร็จและปัญหาอย่างครบถ้วน โดยอิงตามหลักการประเมินแบบ CIPP ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐานของกรมอนามัย

ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 การให้บริการสาธารณสุขต้องยึดหลักความเท่าเทียมและเป็นธรรม โดยนักวิชาการต้องให้ความสำคัญกับการให้บริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ตาม พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 เมื่อพบเหตุการณ์ทุจริตในหน่วยงาน นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่รายงานต่อผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานสาธารณสุข

ในการจัดทำแผนงานด้านสาธารณสุขระดับพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 นักวิชาการสาธารณสุขต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้แผนงานสอดคล้องกับบริบทและสามารถแก้ไขปัญหาสาธารณสุขที่แท้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปัจจัยด้านงบประมาณและบุคลากรเป็นเพียงปัจจัยสนับสนุนเท่านั้น

ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การดำเนินงานด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก เนื่องจากประชาชนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการดำเนินงานด้านสุขภาพ

ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 นักวิชาการสาธารณสุขมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่พบการละเมิด โดยต้องเริ่มจากการแจ้งเตือนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามจึงมีอำนาจในการออกคำสั่งหรือดำเนินคดี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสาธารณสุข

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 ในการตรวจสอบและเฝ้าระวังสภาวะแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยต้องคำนึงถึงหลักการป้องกันล่วงหน้า เพื่อประเมินความเสี่ยงและกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันก่อนเกิดผลกระทบ ซึ่งจะช่วยรักษาสุขอนามัยของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตามพ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 หน้าที่หลักของนักวิชาการสาธารณสุขคือ การควบคุมและป้องกันโรค ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในพื้นที่จึงควรเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสาธารณสุขในระยะยาว ส่วนการรักษาพยาบาลเป็นภารกิจรอง

การให้บริการของหน่วยงานสาธารณสุขต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 โดยนักวิชาการต้องสอบสวนข้อเท็จจริง ประสานงานกับผู้บริหารโรงพยาบาลเพื่อปรับปรุงการให้บริการ และรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ในการสอบสวน ควบคุม และป้องกันการระบาดของโรคติดต่อ โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด และให้ความรู้ประชาชน ส่วนการตัดสินใจด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาผู้บังคับบัญชาอาจทำให้เกิดความผิดพลาด

ความแตกต่างด้านภารกิจ วัฒนธรรมองค์กร และระบบการบริหารจัดการของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งและการประสานงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรมีการสร้างความเข้าใจอันดีและหาข้อตกลงร่วมกันอย่างชัดเจน ตามหลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมใน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ช่วยให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องและสอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ ส่งเสริมการบูรณาการภารกิจร่วมกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานสาธารณสุขในทุกระดับ ตามหลักการบริหารราชการแบบบูรณาการใน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ช่วยให้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค และความก้าวหน้าของการดำเนินงาน เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาการทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามหลักการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการในพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ควรคำนึงถึงความพร้อมและความสมัครใจของหน่วยงานที่จะเข้าร่วม รวมถึงการกำหนดวัตถุประสงค์ บทบาทหน้าที่ และกระบวนการทำงานร่วมกันที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและประสานงานที่มีประสิทธิภาพ ตามหลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมในพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ควรมีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อระดมความคิดเห็นและหาข้อตกลงร่วมกัน ตามหลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 3/1 เพื่อให้เกิดความร่วมมือและประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

ช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความรู้จากหน่วยงานอื่น สามารถนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามหลักการบูรณาการภารกิจของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ต้องกำหนดวัตถุประสงค์และภารกิจที่ชัดเจน มีการจัดสรรทรัพยากรและบทบาทหน้าที่ที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความร่วมมือและประสานงานที่มีประสิทธิภาพ ตามหลักการมอบอำนาจและกระจายอำนาจ ในพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างคุ้มค่า ตามหลักการบริหารจัดการแบบบูรณาการของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

ทำให้สามารถเข้าถึงและให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง โดยอสม.จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขกับชุมชน ตามแนวทางการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ (DHS) ที่เน้นความร่วมมือของทุกภาคส่วน

ช่วยให้เกิดความร่วมมือและไม่เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการบริหารราชการแบบบูรณาการตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 3/1 ที่ต้องการให้ส่วนราชการประสานงานและร่วมมือกัน

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 47 การจัดบริการสุขภาพต้องยึดหลักการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการ และความเป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทุกกลุ่มและไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนการคำนึงเพียงด้านเดียวอาจทำให้การให้บริการไม่ครบถ้วน

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 3 การปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขต้องยึดหลักการคุ้มครองและส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสภาพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ส่วนการคำนึงเพียงด้านเดียวจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนได้อย่างครบถ้วน

ข้าราชการด้านสาธารณสุขต้องยึดหลักการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นสำคัญ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 5 โดยการให้บริการที่เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสุขภาพอย่างเต็มที่

ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 15 ข้าราชการมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และให้บริการวัคซีนป้องกันโรคแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อคุ้มครองและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ส่วนการจำหน่ายวัคซีนเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

การวางแผนด้านสุขภาพต้องคำนึงถึงปัจจัยกำหนดสุขภาพที่หลากหลาย ได้แก่ ปัจจัยทางชีวภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการวางแผนสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาสุขภาพที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่

ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 25 กำหนดให้รัฐต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรก เช่น เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพสูงกว่ากลุ่มอื่น

การกำหนดนโยบาย แผนงาน และโครงการด้านสาธารณสุขต้องคำนึงถึงประเด็นที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสอดคล้องกับสถานการณ์สุขภาพในพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 47 เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและตรงตามปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย

ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 ข้าราชการมีหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนและแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ ส่วนตัวเลือกอื่นเป็นการละเลยหน้าที่หรือปกปิดการทุจริต

ข้าราชการมีหน้าที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิต ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 78 โดยการประพฤติตนอย่างสุจริต เที่ยงธรรม และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนตัวเลือกอื่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ

นักวิชาการสาธารณสุขควรนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขของชุมชนโดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ มีการศึกษาวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบ เพื่อให้ได้แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของชุมชน ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 103 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ การรับของขวัญดังกล่าวจะถือเป็นการรับสินบนและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ในการติดตาม เฝ้าระวัง รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์สถานการณ์โรคติดต่อ เพื่อวางแผนป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

นักวิชาการสาธารณสุขควรปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดการเรื่องร้องเรียนของหน่วยงาน โดยต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรม เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546

นักวิชาการสาธารณสุขมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาและแนะนำด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535

นักวิชาการสาธารณสุขควรมีความเป็นกลาง มีจริยธรรม และมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามข้อบังคับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยจรรยาบรรณข้าราชการ พ.ศ. 2560

นักวิชาการสาธารณสุขต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ และให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียม ตามหลักธรรมาภิบาลในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นธรรมในการให้บริการ

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ให้คำแนะนำและข้อมูลด้านสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพและสร้างเสริมสุขภาพที่ดี ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535

ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 176 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับสินบนหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่อาจส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม การปฏิเสธทันทีจะช่วยรักษาความเป็นกลางและป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ให้คำปรึกษา แนะนำด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน รวมถึงการศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551

ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ข้าราชการห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์และรักษาความเป็นกลาง นักวิชาการสาธารณสุขจึงควรปฏิเสธการรับของขวัญหรือผลประโยชน์ทุกกรณี และแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

เมื่อเกิดข้อขัดแย้งกับผู้รับบริการ นักวิชาการสาธารณสุขต้องใช้หลักการสื่อสารและการเจรจาต่อรองเพื่อหาข้อยุติ โดยมุ่งเน้นการรักษาความสัมพันธ์อันดีและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้เพื่อให้การให้บริการเป็นไปอย่างราบรื่นและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้รับบริการ

นักวิชาการสาธารณสุขต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ตามหลักจริยธรรมของข้าราชการ เพื่อให้การให้บริการและการตัดสินใจเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน โดยต้องปฏิบัติงานตามกฎหมาย ระเบียบ และมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีคุณภาพ รวมทั้งต้องให้คำแนะนำและเผยแพร่ความรู้ด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน

ในกรณีที่มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของนักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นกลาง เพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไข โดยยึดหลักความเป็นธรรม ความโปร่งใส และการให้โอกาสผู้ถูกร้องเรียนชี้แจง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ

ตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมข้าราชการ ข้าราชการต้องยึดหลักการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ปราศจากอคติ และคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

นักวิชาการสาธารณสุขมีหน้าที่ในการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค ตามหลักการบริการสาธารณะ โดยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ

การตรวจสอบโครงการลงทุนของลูกค้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการบริหารความเสี่ยงสินเชื่อ ผู้ตรวจสอบต้องพิจารณาความเป็นไปได้ทางการตลาด ความสามารถในการบริหารจัดการ และการวิเคราะห์ประมาณการทางการเงินอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะสามารถสร้างกระแสเงินสดเพียงพอต่อการชำระหนี้

ตามหลักการควบคุมความเสี่ยงสินเชื่อ ผู้ตรวจสอบต้องตรวจสอบข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ และแหล่งที่มาของรายได้ของลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนการให้ความเห็นชอบสินเชื่อโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินแก่องค์กร